โค้ชเฮง ชี้‘ช้างศึก’ต้องชนะทุกนัดในบ้าน – บิ๊กอ๊อด กำชับแข้งไทยห้ามประมาท

โค้ชเฮง ชี้‘ช้างศึก’ต้องชนะทุกนัดในบ้าน – บิ๊กอ๊อด กำชับแข้งไทยห้ามประมาท

โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฝ่ายเทคนิค ยอมรับจับติ้วบอลโลก “ช้างศึก” ไม่ง่ายแม้ทีมร่วมสายคือชาติอาเซียน เกือบหมด ชี้ทุกเกมเหมือนดาร์บี้แมตช์ ย้ำทุกนัดในบ้านต้องคว้าเพื่อโอกาสเข้ารอบ แนะเหล่านักเตะเร่งปรับตัวหา อากิระ นิชิโนะ กุนซือใหม่ชาวญี่ปุ่น

โค้ชเฮง – หลังการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ซึ่ง “ช้างศึก”ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ทีมอันดับ 116 ของโลก ได้อยู่ในกลุ่มจี ร่วมกับ 3 ทีมจากภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ “ดาวทอง” เวียดนาม ทีมอันดับ 96 ของโลก, “เสือเหลือง” มาเลเซีย ทีมอันดับ 159 ของโลก และ “อิเหนา” อินโดนีเซีย ทีมอันดับ 160 ของโลก ขณะที่ทีมยักษ์ใหญ่ของกลุ่มเป็น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ทีมอันดับ 67 ของโลก

นายวิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า การจับสลากออกมาเช่นนี้ถือว่าเป็นความท้าทายของนักฟุตบอลไทย ว่าจะสามารถแสดงให้เห็นว่ายังคงเป็นเบอร์ 1 ของภูมิภาคอาเซียนได้อยู่หรือไม่ ต้องยอมรับว่ามีความเปลี่ยนแปลงสำหรับทีมชาติไทยพอสมควร อาจจะเสียเปรียบในเรื่องของทีมเวิร์ก เพียงแต่ฟุตบอลเป็นเรื่องของแท็คติกที่โค้ชคนใหม่อย่าง อากิระ นิชิโนะ จะใส่ให้ผู้เล่นไทยอย่างไร แต่เชื่อว่าทีมเหล่านี้ไทยสามารถเอาชนะได้ทุกทีม

อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกที่นักเตะไทยต้องมีเลยคือความศรัทธา ทั้งศรัทธาในตัวเอง เพื่อนร่วมทีม แนวทางการเล่น รวมถึงศรัทธาในตัวโค้ชคนใหม่ด้วย นอกจากนั้นคือการมีสมาธิอยู่กับเกม อยู่ในเกมตลอดเวลา และมีความมั่นใจ จะทำให้ฟอร์มการเล่นของทีมชาติไทยดีขึ้น ส่งผลถึงชัยชนะได้แน่นอน

“สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือการปรับตัวเข้ากับแนวทางของนิชิโนะ ถ้าหากเล่นได้ตามแนวทาง โดยเฉพาะแนวทางแบบญี่ปุ่น ซึ่งไม่เห็นมานานในทีมชาติไทย แบบที่สร้างเกมด้วยความอดทน รู้จักปรับจังหวะการเล่นให้ถูกต้อง ซึ่งบอกเลยว่าตั้งแต่มีโค้ชต่างชาติมา ยังไม่มีใครทำให้ชัดเจนเลย จะรับแล้วโต้ยังไม่ชัดเจน หรือครองเกมบุกแต่ยังขึ้นบอลสะเปะสะปะ ดังนั้นนอกเหนือจากเรื่องชัยชนะแล้ว คงจะได้เห็นแนวทางการเล่นที่เป็นแบบอย่างที่ดี อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”

ขณะที่ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย คนใหม่ จะเรียกตัวนักเตะฝึกซ้อมก่อนเกมนัดแรกกับเวียดนาม ในวันที่ 5 ก.ย. นั้น โค้ชเฮง กล่าวว่า คงต้องมีเกมอุ่นเครื่องก่อนแน่นอน เพียงแต่ว่าการจัดระเบียบเกมรับ เกมรุก มันไม่ได้ทำง่ายๆ ต้องใช้เวลาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องของความฟิตนักเตะไม่ต้องเป็นห่วง เพราะว่าต่อจากนี้คงไม่มีใครที่นั่งสำรองแล้วมาติดทีมชาติ นิชิโนะจะต้องมองคนที่มีโอกาสได้ลงสนามและแสดงความสามารถเข้ากับแนวทางการเล่นที่ต้องการ ถึงจะได้มีส่วนร่วมในทีม

นายวิทยา กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับโอกาสเข้ารอบนั้นเชื่อว่าทุกทีมในกลุ่มนี้มีลุ้นจะเอาชนะยูเออีได้หมดทุกทีม ดังนั้นเกมในบ้านของทีมชาติไทยนั้นจะต้องเอาชนะให้ได้ทุกนัด 12 คะแนนถ้าเก็บได้ครบ มันจะการันตีได้ค่อนข้างแน่นอนว่าเราจะผ่านเข้ารอบสาม เพราะเกมนอกบ้านไทยมีโอกาสบุกไปชนะได้อยู่แล้ว
โดยการแข่งขันในรอบนี้ จะหาทีมแชมป์กลุ่มเข้ารอบ 8 ทีม รวมกับอันดับ 2 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีม เข้าไปเล่นในรอบ 3 หรือ 12 ทีมสุดท้าย พร้อมกับสิทธิ์ผ่านเข้ารอบเอเชียน คัพ 2023 ที่ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ อีกด้วย

ด้าน “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกล่าวว่า “ชั่วโมงนี้เราต้องให้เครดิตทีมในอาเซียน ว่ามีความสามารถไม่ได้แตกต่างกับไทยเลย เพราะทุกทีมต่างพัฒนาตัวเองขึ้นมา อย่างเวียดนามมีเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ ถ้าหากเราอยากชนะต้องเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด ที่สำคัญอย่าได้ประมาท หรือคิดว่าเป็นทีมรองบ่อนเด็ดขาด”

ส่วนสนามที่จะใช้เกมเหย้าวันที่ 5 ก.ย. พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ได้ให้นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมไปสอบถามทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่าสนามราชมังคลากีฬาสถาน เริ่มดำเนินการปรับปรุงหรือยัง ถ้าเริ่มดำเนินการแล้ว เรายังมีสนามม.ธรรมศาสตร์ รังสิต, สนามกีฬากลางจ.สุพรรณบุรี หรือ มิตรผล สเตเดียม รองรับอยู่

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องข้อมูลสัญญา อากิระ นิชิโนะ ว่ามีค่าเหนื่อยเท่าไหร่ เซ็นกี่ปีนั้น ตนขอไม่ระบุ เพราะเป็นข้อตกลงระหว่างสมาคมกับ นิชิโนะ ที่จะไม่ขอพูดเรื่องนี้